สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในเมืองลี่เจียง
2.1 เมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang Gucheng)
หรือที่เรียกกันว่า เมืองเก่าต้าเหยียน (Dayan) เป็นเมืองเก่าที่มีอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นในช่วงสมัยราชวงศ์ซ่ง (Song) และราชวงศ์หมิง (Ming) ครอบคลุมพื้นที่กว่า 14 ตารางกิโลเมตร มีประชาชนพักอาศัยอยู่ประมาณ 4,200 ครัวเรือน ลักษณะพิเศษของเมืองเก่านี้คือ บ้านชั้นเดียวที่สร้างด้วยไม้ หลังคามุงกระเบื้องดินเผา ทางเดินในเมืองที่ทำจากหินทั้งหมด สะพานเล็ก ๆ ที่สร้างจากหินและไม้กว่า 354 สะพาน และคลองเล็กใสที่ไหลผ่านทั่วเมืองจนได้รับการขนานนามว่า “Oriental Venice” ซึ่งคลองเหล่านี้ยังคงป็นแหล่งน้ำอุปโภคที่สำคัญ โดยมีต้นน้ำมาจากภูเขาหิมะมังกรหยก โดยน้ำเหล่านี้จะไหลไปรวมกันที่ สวนเฮยหลงถาน นอกจากนี้ บริเวณใจกลางเมืองเก่าลี่เจียงมีลานวัฒนธรรมชื่อว่า Sifang Market ซึ่งในสมัยราชวงศ์หมิงเป็นตลาดการค้าที่สำคัญ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2539 ทำให้เมืองเก่าลี่เจียงได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก จึงได้มีการบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่โดยยังคงรูปแบบเดิมเอาไว้ ในปี 2540 เมืองลี่เจียงได้รับคัดเลือกจาก UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกทางด้านธรรมชาติ และวัฒนธรรม
2.2 ซานเหยียนจิ่ง (Sanyanjing / Three Wells)
เป็นบ่อน้ำธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในเมืองเก่าลี่เจียง บ่อน้ำแห่งนี้เป็นบ่อน้ำธรรมชาติ มีลักษณะเป็นบ่อน้ำ 3 บ่อเชื่อมต่อกัน โดยมีต้นน้ำมาจากตาน้ำใต้ดินซึ่งผุดออกมาจากบ่อแรก ถือเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของชาวน่าซีในอดีต โดยชาวน่าซีได้มีการกำหนดการใช้น้ำในแต่ละบ่อไว้อย่างชัดเจน คือ บ่อแรก เป็นบ่อน้ำสำหรับบริโภค บ่อที่สอง เป็นบ่อน้ำสำหรับล้างผัก และบ่อน้ำที่สาม เป็นบ่อน้ำสำหรับซักผ้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการรู้จักใช้น้ำอย่างประหยัดของชาวน่าซี แม้ว่าเมืองลี่เจียงจะเป็นเมืองที่มีน้ำใช้อย่างอุดมสมบูรณ์ก็ตาม
2.3 ภูเขาหิมะมังกรหยก (Yulong Xueshan, Jade Snow Dragon Mountian) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเก่าลี่เจียง เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล โดยเฉลี่ย 4,000 เมตร เนื่องจากมียอดเขา 13 ยอดเรียงต่อกัน และปกคลุมด้วยหิมะ มีลักษณะคล้ายมังกร จึงถูกเรียกว่า ภูเขาหิมะมังกรหยก เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของเมืองลี่เจียง และยังเป็นแหล่งที่พบพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ที่หลากหลาย บริเวณยอดของภูเขาหิมะมังกรหยก สามารถนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปได้ ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวเมืองลี่เจียงที่สวยงาม และเป็นยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี
2.4 ทุ่งหญ้ายูนซานผิง (Yunshanping)
ตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาทิศตะวันออกของยอดเขาหลักของภูเขาหิมะมังกรหยก เป็นทุ่งหญ้าที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,240 เมตร เป็นจุดชมวิวยอดเขาหิมะมังกรหยก ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่หลังป่าต้นยูนซาน (หรือต้นฉำฉา) และต้นสนที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของจามรี วัว แพะ และม้าที่ชาวบ้านชนเผ่าน่าซีเลี้ยงไว้ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มีการจัดแสดงการเต้นรำและร้องเพลงของชนเผ่าน่าซี ทุ่งหญ้ายูนซานผิงสามารถขึ้นไปได้โดยนั่งกระเช้าไฟฟ้า
2.5 สระน้ำมังกรดำ (Heillongtan, Black Dragon Pool)
หรือที่รู้จักกันว่า สวนยู้วฉวน (Yuquan) ตั้งอยู่ในตัวเมืองลี่เจียง ห่างจากตัวเมืองเก่าลี่เจียงไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 11,390 ตารางเมตร สระน้ำมังกรดำมีจุดเด่นที่ความใสของน้ำที่ใสราวกับมรกต นอกจากนี้ ภายในสวนยังมีสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมของชาวฮั่น ทิเบต และน่าซี ไว้ด้วยกัน อาทิ สะพาน Suocui ซึ่งเป็นสะพานหินอ่อนสีขาว ตั้งอยู่กลางสระน้ำมังกรดำ, Dayue Pavilion ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง (Ming), วัด Longsheng พิพิธภัณฑ์ตงปา และสถาบันศึกษาวัฒนธรรมตงปา ภายในสระน้ำมังกรดำยังเป็นจุดชมวิวภูเขาหิมะมังกรหยกที่สวยงามอีกด้วย
2.6 บ้านตระกูลมู่ (Mujiayuankezhan, Mu’s Mansion)
เมื่อ 470 ปีก่อน ตระกูลมู่เป็นตระกูลที่ปกครองเมืองลี่เจียงถึง 22 รุ่น (คือสมัยราชวงศ์หยวน หมิง และชิง) ในยุคดังกล่าว เมืองลี่เจียงมีเพียง 2 ตระกูล ซึ่งตระกูล (หรือแซ่) จะเป็นเครื่องบ่งบอกสถานะทางสังคม คือ แซ่มู่ เป็นชนชั้นปกครอง และแซ่เหอ เป็นชนชั้นแรงงาน ในสมัยที่ตระกูลมู่ปกครองเมืองลี่เจียงนั้น ได้ห้ามการสร้างกำแพงล้อมรอบเมือง เนื่องจากผู้ปกครองเมืองแซ่มู่ ซึ่งแปลว่าต้นไม้ หรือไม้ หากสร้างกำแพงล้อมรอบเมือง ก็เปรียบเสมือนวาดกรอบล้อมรอบคำว่า มู่ ซึ่งจะทำให้อักษรมู่ในภาษาจีน กลายเป็นคำว่า คุน ซึ่งแปลว่า การกักขัง ซึ่งจะไม่เป็นมงคลต่อตระกูลมู่ ตระกูลมู่ยังสั่งให้ชาวบ้านสร้างธรณีประตูบ้านให้สูง เพื่อมิให้คนทั่วไปเหยียบธรณีประตู ซึ่งทำจากไม้ ซึ่งเปรียบเสมือนการเหยียบย่ำตระกูลมู่ นอกจากนี้ ยังให้ชาวบ้านสร้างคานบ้านให้ต่ำ เพื่อให้ทุกคนต้องก้มหัวให้กับคานบ้าน ซึ่งทำจากไม้ เพื่อให้ชาวบ้านระลึกตลอดเวลาว่าต้องให้ความเคารพแก่ตระกูลมู่ สถาปัตยกรรมในบ้านตระกูลมู่เป็นศิลปะสมัยราชวงศ์ หมิง (Ming) ผสมผสานกับวัฒนธรรมชนเผ่าน่าซี มีการจัดสวนโดยนำพันธุ์ไม้หายากหลายชนิดมาจัดวางเข้าด้วยกัน สะท้อนให้เห็นถึงความเปิดกว้างที่จะรับสิ่งใหม่ ๆ จากภายนอก ตระกูลมู่เป็นตระกูลที่ให้ความสำคัญกับการศึกษา ภายในบริเวณบ้านมีหอสมุดขนาดใหญ่ชื่อว่า “หอสมุดหมื่นเล่ม” เพื่อเป็นแหล่งความรู้สำหรับลูกหลานภายในตระกูล มีห้องประชุมภายใน ซึ่งในอดีตใช้เป็นสถานที่ไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งระหว่างสมาชิกในตระกูล และมีลานสำหรับจัดการแสดงดนตรี และงานรื่นเริงภายในตระกูลด้วย
2.7 โค้งแรกแม่น้ำแยงซี (Changjiangdiyiwan)
ห่างจากเมืองเก่าลี่เจียง 53 กิโลเมตร เกิดจากแม่น้ำแยงซี (หรือที่คนจีนเรียกว่า แม่น้ำฉางเจียง) ที่ไหลลงมาจากที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต มากระทบกับภูเขาไห่หลอ ทำให้ทิศทางของแม่น้ำหักโค้งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จนเกิดเป็นโค้งน้ำที่สวยงาม
2.8 หุบเขาเสือกระโจน (Hutiaoxia)
ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางแยกของเมืองลี่เจียงและเมืองจงเตี้ยน เป็นหุบเขาในช่วงที่แม่น้ำแยงซีไหลลงมาจากจินซาเจียง (แม่น้ำทรายทอง) น้ำบริเวณนี้ไหลเชี่ยวมาก ช่วงที่แคบที่สุดมีความกว้างเพียง 30 เมตร ตามตำนานเล่าว่า ในอดีตช่องแคบนี้มีเสือกระโดดข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ เนื่องจากกลางแม่น้ำบริเวณนี้มีหินที่เรียกว่า “หินเสือกระโดด” ซึ่งก้อนหินมีความสูงกว่า 13 เมตร จึงเป็นที่มาของชื่อ “ช่องแคบเสือกระโดด”
2.9 ทะเลสาบหลูกูหู (Lugu Hu)
ห่างจากตัวเมืองลี่เจียงไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 280 กิโลเมตร ทะเลสาบครอบคลุมพื้นที่ 58 ตารางกิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 2,690 เมตร มีความลึกเฉลี่ย45 เมตร โดยมีจุดที่ลึกที่สุดถึง 90 เมตร จัดเป็นทะเลสาบที่ลึกเป็นอันดับสองของมณฑลยูนนาน ภายในทะเลสาบมีเกาะ 5 เกาะ 1 หมู่เกาะ และมีแหลมที่ยื่นไปในทะเลสาบ 3 แหลม น้ำในทะเลสาบใสมาก สามารถมองเห็นได้ชัด (Visibility) ภายในระยะ 11 เมตร |